ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ต.สมโภชน์ เข็มเพ็ชร์ สว.กก.3 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายสดับพงษ์ ณ ลำปาง อายุ 47 ปี ผู้กำกับภาพยนตร์ผลิตลงแผ่นดีวีดีชื่อดัง จำเลยตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 023/2555 ลงวันที่ 21 ธ.ค. 2555 ในความผิดฐาน ฉ้อโกง หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนดนัด จับกุมได้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาพระราม 9 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

ทั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2555 นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ทางเฟซบุ๊ก พร้อมด้วย น.ส.ชญานันท์ อาจปรุ หรือ “กีต้าร์” นางแบบนิตยสารแม็กซิม และดาราแนวเซ็กซี่ชื่อดัง โจทก์ที่ได้ฟ้องคดีต่อนายสดับพงษ์ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมจำเลย หลังจากหลอกลวง น.ส.ชญานันท์ ไปถ่ายภาพยนตร์ผลิตขายเป็นแผ่นดีวีดี เรื่อง “เดอะลอสไลน์” แล้วไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างเป็นเงิน 7 หมื่นบาท นอกจากนี้จำเลย ยังหลอกขอเงินจากนางแบบรายนี้ โดยอ้างว่าจะนำไปใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์อีกเป็นจำนวนกว่า 2 แสนบาท แล้วไม่ยอมคืนเงินให้

อย่างไรก็ดี ทาง น.ส.ชญานันท์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ เพื่อเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยคดีนี้ มีนายสดับพงษ์ เป็นจำเลยที่ 1 นายโสภณ ขุนภักดี เป็นจำเลยที่ 2 และ น.ส.อรวรรณ เป็นจำเลยที่ 3 ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง โดยจำเลยที่ 1-2 รับสารภาพ แต่จำเลยที่ 3 ไม่มาศาล จึงถูกออกหมายจับ

จากนั้นทางตำรวจ บก.ป.สามารถติดตามจับกุมจำเลยที่ 3 ไว้ได้ ฝ่ายโจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ต่อมา จำเลยที่ 2-3 ได้นำบัญชีธนาคารซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ขอให้ใช้เป็นบัญชีรับการโอนเงินจากโจทก์ โดยทางจำเลยที่ 2-3 มอบเงินทั้งหมดให้จำเลยที่ 1 โจทก์จึงถอนฟ้องจำเลยที่ 2-3 จากนั้นศาลได้ให้โอกาสจำเลยที่ 1 ในการผ่อนชำระเงินคืนให้โจทก์ แต่จำเลยกลับผิดนัดและหลบหนีคดี ศาลจึงมีคำพิพากษาลับหลังจำเลยให้จำคุกตามความผิดรวม 15 เดือน ก่อนคดีจะถึงที่สุดเนื่องจากจำเลยไม่อุทธรณ์คดี

กระทั่งชุดสืบสวน กก.3 บก.ป.ซึ่งเฝ้าติดตามตัวจำเลย มาเป็นเวลาหลายเดือนทั้งใน จ.ลำปาง จ.สระแก้ว และใน กทม.ก่อนจะพบว่าจำเลย ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาพระราม 9 จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตามหมายศาล ก่อนประสานให้ผู้เสียหายเข้าชี้ตัวที่ บก.ป.และนำส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ต่อไป

กีต้าร์-ชญานันท์ กล่าวภายหลังเข้าชี้ตัวจำเลย ว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อจากนายสดับพงษ์ ซึ่งว่าจ้างให้แสดงภาพยนตร์ผลิตเป็นแผ่นดีวีดี โดยตกลงค่าจ้าง 7 หมื่นบาท แต่ระหว่างการถ่ายทำนอกจาก นายสดับพงษ์ ยังไม่จ่ายเงินค่าจ้างแล้ว ยังเอ่ยปากขอหยิบยืมเงินด้วย ซึ่งสาเหตุที่ยอมให้ยืมเงินเพราะเชื่อถือว่าเป็นผู้กำกับที่เคยมีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงการหนังแผ่น และวงการโฆษณา และเขาก็มาติดต่อด้วยตัวเอง หลังจากพบในงานเดินแบบ

“ที่ผ่านมาก็ให้โอกาสเขาคืนเงิน แต่หลังจากติดต่อไม่ได้จึงให้ข้อมูลทางเฟซบุ๊ก และได้รับการประสานจากนายสงกรานต์ มาช่วยเหลือฟ้องร้องคดี และแจ้งความตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมนายสดับพงษ์” กีต้าร์ แม็กซิม กล่าว

นอกจากนี้ กีต้าร์ ยังกล่าวอีกว่า ทางญาติของนายสดับพงษ์ จะชดใช้เงินค่าเสียหายให้เพื่อขอให้ยอมความ หากเป็นเช่นนั้นก็คงจะยอมความเพราะเป็นสิ่งที่รอมาตั้งแต่แรก

ทั้งนี้ สำหรับ “กีต้าร์-ชญานันท์” นอกจากเป็นนางแบบนิตยสารแม็กซิม และรับงานถ่ายแบบแนวเซ็กซี่แล้ว ยังมีผลงานการแสดง ทั้งในและต่างประเทศ หลายเรื่อง เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “แก๊งตบผี” ซึ่งรับบทเป็นแน็ตตี้ , เรื่อง “ผู้ชายลั้นลา” รับบทเป็นส้มโอ เรื่อง “สะใภ้บรื๋อ” รับบทเป็นแอนนี่ เรื่อง “เฟรนด์ชิพ” รับบทเป็นน้องสาหร่าย ขณะเดียวกันยังมีผลงานละครโทรทัศน์ เรื่อง “ราชินีจ้าวสังเวียน” ออกอากาศทางช่อง 5 ส่วนผลงานการแสดงในต่างประเทศ เช่น ละครทีวีของญี่ปุ่น เรื่องWildlife 2009 ภาพยนตร์ของอินเดียเรื่อง Yagam 2010 และภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด เรื่อง Shanghai 2010

แหล่งข่าวจาก posttoday…

มาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในบ้านผู้ใช้ยังไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร ดังนั้นความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องที่ควรได้รับความสนใจในการศึกษาไฟฟ้าทำอันตรายให้แก่ร่างกายได้ ผู้ที่จะได้รับอันตรายจากอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นเนื่องจากส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายบังเอิญไปแตะและต่อเป็นส่วนหนึ่งในวงจรไฟฟ้าหรือสัมผัสถูกสายสองเส้นหรือเพียงเส้นเดียวหรืออาจจะไปสัมผัสถูกวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลแต่เพียงจุดเดียวในขณะที่ร่างกายส่วนอื่นสัมผัสอยู่กับพื้นดินครบวงจรทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายขึ้น

ปัจจุบันอุปกรณ์ไฟฟ้ามีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันมาก

ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธถึงความสะดวกสบายที่ได้รับจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ารวมถึงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจต้องใช้ไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะไฟฟ้ามีประโยชน์มากมายก็จริงแต่ในเวลาเดียวกันก็มีอันตรายอยู่ในตัวของมันเอง ถ้ารู้จักใช้ก็จะได้ประโยชน์มหาศาล ถ้าใช้ผิดวิธีก็อาจจะได้รับอันตรายถึงชีวิต จึงควรเข้าใจและรู้พื้นฐานทางด้านความปลอดภัยในการใช้ไว้บ้างเพราะความประมาทหรือเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยก็อาจนำมาสู่ความหายนะและการสูญเสียต่างๆในชีวิตประจำวันของเราการเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ใช้งาน

อุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างภายนอกเป็นโลหะ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เตารีด ปั๊มน้ำ สว่าน เป็นต้น เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้ เมื่อมีการชำรุดของไฟฟ้า เช่น ฉนวนเสื่อมสภาพหรือมีการแตกหักของฉนวน ทำให้สายไฟไปสัมผัสกับโครงโลหะของอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นๆ กระแสไฟฟ้าก็สามารถรั่วไหลมายังโครงสร้างนั้นได้และเมื่อมีผู้นำอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้นๆในขณะที่ทำงานอยู่ กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านตัวผู้ทำงาน หรือผู้สัมผัสอุปกรณ์นั้นลงสู่ดินทำให้ได้รับอันตรายได้ วิธีป้องกันอุบัติเหตุดังกล่าวคือ การต่อสายดินโดยใช้สายไฟฟ้าต่อกับโครงสร้างส่วนที่เป็นโลหะของอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นลงดิน

นาฬิกาข้อมือ นับว่าเป็นเครื่องประดับประจำกายเป็นอันดับต้น ๆ ของผู้ชายสมัยนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยดีไซน์การออกแบบหลากหลายสไตล์ที่ช่วยบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่ และเสริมบุคลิกให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น และเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมตามมาก็น่าจะไม่พ้น แหวน ซึ่งเป็นแอคเซสซอรี่ที่สามารถนำมาแมทช์ให้เข้ากับนาฬิกาข้อมือได้อย่างลงตัวแต่ใครจะเชื่อว่าวันนี้มีคนบรรเจิดไอเดียสร้างสรรค์นำเครื่องประดับทั้งสองชนิด มารวมร่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว แถมยังเก๋ไก๋ไม่ซ้ำแบบใครอีกซะด้วย กับ “ไทม์ด ริง” (Timed Ring) แหวนนาฬิกา ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Szikszai Gusztáv ดีไซเนอร์ผู้มีความคิดสุดแปลก ได้จัดแจงแปลงสภาพแหวนธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นเครื่องมือบอกเวลา

หากมองแบบเผิน ๆ อาจคิดว่ามันเป็นเพียงแหวนหน้าตาเรียบ ๆ วงหนึ่งเท่านั้น ทว่าเมื่อสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าบนแหวนมีตัวเลขมากมายสลักอยู่ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นตัวเลขบอกจำนวนชั่วโมง อีกส่วนเป็นนาที และอันสุดท้ายบอกวินาที ซึ่งตัวแหวนสามารถหมุนไปหมุนมาตามเวลาจริงได้อีกต่างหาก เจ๋งสุด ๆ ไปเลย แหวนนาฬิกาดังกล่าวไม่ได้ทำเพื่อขึ้นวางขายแต่อย่างใด เพราะเป็นเพียงแค่ผลงานการออกแบบอีกชิ้นนึงของ Szikszai Gusztáv เท่านั้น แต่ถ้าเขาคิดจะทำขายจริง ๆ ก็เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนซื้อมาใส่อยู่นะ เพราะดีไซน์มันเฟี้ยวซะขนาดนี้นี่นา